ถ้าไม่เปลี่ยนใส้กรอง จะเกิดอะไรขึ้น?!!

ไส้กรองน้ำมันเครื่อง ถ้าไม่เปลี่ยน = เครื่องพัง! จริงหรือ? และนี่คือ 6 ผลกระทบสำคัญ
หากไม่เปลี่ยน ไส้กรองน้ำมันเครื่องตามระยะที่กำหนด 

1. ประสิทธิภาพการไหลเวียนของน้ำมันเครื่องลดลง
– ลองนึกภาพท่อน้ำที่อุดตัน น้ำมันเครื่องก็เหมือนกัน ถ้าไส้กรองตัน น้ำมันไหลไม่สะดวก
– ผลลัพธ์? เครื่องยนต์ขาดการหล่อลื่น เสียดสีกันจนร้อนระอุ และสึกหรอเร็วกว่าเดิม 2-3 เท่า!

2. สิ่งสกปรกสะสม ส่งผลเสียต่อเครื่องยนต์
– ไส้กรองที่เก่าและตัน = สิ่งสกปรกหลุดเข้าไปในเครื่องยนต์
– ฝุ่น เศษโลหะ คราบเขม่า ทำให้ ลูกสูบ กระบอกสูบ และชิ้นส่วนอื่นๆ ถูกขูดจนเสียหาย

3. เครื่องยนต์ร้อนขึ้น เสี่ยง Overheat
– น้ำมันเครื่องที่สะอาดช่วยลดความร้อนให้เครื่องยนต์ แต่ถ้าไส้กรองตัน?
– น้ำมันสกปรก + ไหลเวียนไม่ดี = เครื่องร้อนจี๋!  เสี่ยง ฝาสูบโก่ง หรือเครื่องดับกลางทาง

4. เครื่องยนต์กินน้ำมันมากขึ้น
– เครื่องยนต์ต้องออกแรงมากขึ้นเพราะ การหล่อลื่นแย่ลง
– ผลที่ตามมา? กินน้ำมันหนักกว่าเดิม!  ค่าเติมน้ำมันพุ่งขึ้นแบบไม่รู้ตัว!

5. ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ลดลง
– ลองจินตนาการว่า เราวิ่งที่ใส่รองเท้าที่เต็มไปด้วยโคลน มันหนักและอืดใช่มั้ย?
– เครื่องยนต์ก็เช่นกัน ถ้าไส้กรองตัน จะส่งผลให้ อัตราเร่งตก สตาร์ทยาก และเครื่องยนต์สะดุดบ่อยๆ

6. ความเสียหายรุนแรง อาจต้องยกเครื่องใหม่
– ปล่อยไว้นาน น้ำมันเครื่องอาจไม่สามารถหล่อลื่นได้เลย
– แถมชิ้นส่วนภายในเสียหายหนัก ถึงขั้นต้อง “ยกเครื่องใหม่”  ซ่อมทีหลายหมื่น!

 สรุป! เปลี่ยนไส้กรองน้ำมันเครื่อง = ประหยัดเงิน & ยืดอายุเครื่องยนต์
 เปลี่ยนทุก 10,000-15,000 กม. หรือทุกครั้งที่เปลี่ยนน้ำมันเครื่อง
 ปลอดภัยเครื่องยนต์ไม่มีสะดุด ประหยัดน้ำมันและไม่ต้องเสียค่าซ่อมแพง!